ครม.ไฟเขียวเปิดร่วมทุน 8 หมื่นล้าน ทางด่วนอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ 24 ธ.ค. 2567 ได้มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้พิจารณาอนุมัติการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข  5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต -บางปะอิน ของกรมทางหลวง หรือ M5 ซึ่งคาดว่าจะมีการเร่งดำเนินการ และเปิดให้บริการภายในปี 2572

โดยโครงการดังกล่าวจะใช้วงเงินลงทุนราว 79,916.78 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Gross Cost โดยภาครัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้าง เป็นเจ้าของโดยมีหน้าที่ เช่น เวนคืนที่ดิน กำกับดูแลการดำเนินงานของภาคเอกชน และเอกชนจะได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการ

สำหรับระยะเวลาโครงการรวมทั้งสิ้น 34 ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 1. ออกแบบและก่อสร้าง 4 ปี และ 2. ดำเนินงานและบำรุงรักษา 30 ปี (นับจากวันเปิดให้บริการ) ส่วนค่าผ่านทาง กำหนดเบื้องต้น แบ่งเป็น รถยนต์ 4 ล้อ 20 หรือ 40 บาทต่อคัน และรถยนต์มากกว่า 4 ล้อ 30 หรือ 65 บาทต่อคัน (ปรับขึ้นทุก 5 ปี ในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี)

ทั้งนี้ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข  5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต -บางปะอิน มีแนวเส้นทาง เป็นการต่อขยายทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ รวมระยะทางประมาณ  22 กิโลเมตร เริ่มต้นตั้งแต่ ปลายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ณ บริเวณโรงกษาปณ์ ไปจนถึงบริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน  จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเป็นการก่อสร้างทางยกระดับอยู่บนเกาะกลาง ถ.พหลโยธิน ขนาด 6 ช่องจราจร มีจุดขึ้นลง จำนวน 7 แห่ง

1. จุดเชื่อมต่อ บริเวณด่านฯ รังสิต 1

2.จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านฯ รังสิต 2

3. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านฯ คลองหลวง

4. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านฯ ม.ธรรมศาสตร์

5. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านฯ นวนคร

6. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านฯ วไลยอลงกรณ์

7. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านฯ ประตูน้ำพระอินทร์

ทั้งนี้ นาวสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่เลขา ครม. สรุปความเห็นหน่วยงานต่างๆ มาจะเห็นว่าความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีข้อสังเกตหลายประเด็น แต่อย่างไรก็ดี โครงการนี้มีความเหมาะสมในการดำเนินการ โดย ครม. อนุมัติวันนี้ จะเป็นกรอบที่ทางกระทรวงคมนาคม ต้องนำไปใช้คัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินการ จึงขอย้ำให้ทางกระทรวงคมนาคมดำเนินการคัดเลือก และต่อรองราคาเพื่อให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด