ที่ บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล
กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ ร่วมกับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศ.ป.ป.ส.) นำโดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว และกลุ่มกองทัพธรรม นำโดย นายใจเพชร กล้าจน จัดการชุมนุมค้างแรม (ตั้งแต่ 2 มี.ค.68) เพื่อรักษากระบวนการยุติธรรม รักษาประเทศไทย และขับไล่รัฐบาล กรณี ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
เวลา 1035 กลุ่มฯ ได้ประกาศให้มวลชนมารวมตัวที่ บริเวณข้างเวที จากนั้น นาย พิชิต ไชยมงคล ได้แถลงข่าว ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยฯ ว่าจากคลิปเสียงที่หลุดออกมา ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุนเซน และนายกรัฐมนตรีก็ออกมายอมรับว่าเป็นเสียงของตนจริง ดังนั้น ทางกลุ่มต้องออกมาแสดงพลังเพื่อให้ นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการกระทำของนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวโจมตีผู้นำทหารของฝ่ายตนเอง และยังนำความลับของประเทศไปให้กับฝ่ายกัมพูชา เป็นการกระทำที่ทรยศต่อชาติ และเป็นการขายแผ่นดิน นอกจากนี้ยังได้เชิญชวนประชาชน ให้ออกมาร่วมชุมนุมกับทางกลุ่ม ที่จะจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 21 -24 มิ.ย.68 นี้ด้วย พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องไปยังพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ว่าให้ถอนตัวออกจากพรรครัฐบาลเพื่อมายืนเคียงข้างประชาชน หากยังคงดื้อดึง ในวันอังคารที่ 24 มิ.ย.68 ก็จะพบกับการรวมพลังของประชาชนที่จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
เวลา 1055 พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา กล่าวถึง ประเด็นของทหาร ว่าทหารก็อยู่ฝ่ายเดียวกับนายกรัฐมนตรีิเพราะภารกิจของทหารคือการปกป้องอธิปไตยของประเทศโดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำ แต่ในตอนนี้นายกรัฐมนตรี กลับกล่าวว่ากองทัพของตนเองอยู่ฝ่ายตรงข้ามตน และนายกรัฐมนตรียังไปเดือดร้อนแทนฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศใดมาก่อน เพราะถือเป็นการกระทำที่ไม่ต่างจากการขายแผนดิน
เวลา 1105 นาย พิชิตไชยมงคล ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง “หมดเวลา แพทองธาร” โดยระบุเนื้อหาดังนี้
ในสภาวะที่ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงอยู่ในภาวะสงครามกับประเทศกัมพูชา เนื่องจากการการรุกข้ามแดน ของกัมพูชามายังดินแดนประเทศไทยหลายครั้ง การแสดงจุดยืนในการปกป้องอธิบไตยของชาติในนามประชาชนและกองทัพไทยเป็นไปไนแนวทาง ชัดเจนว่ายืนยันปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่ท่าทีของรัฐบาลกลับทำตัวเหมือนอ่อนข้อและยอมรับเงื่อนไขของกัมพูชามากกว่าจะยื่นหยัด
ปกป้องประเทศไทย การเปิดคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นางสาวแพองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทย กับ สมเด็จฮุนเซน เป็นใบเสร็จชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีไทย ไม่ได้มีความจริงใจใจในการรักษาอธิปไตยของชาติ แต่เป็นเพียง
การรักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของตัวเอง อีกทั้งยังกล่าวหา แม่ทัพนายกองทหารไทยที่ทำหน้าที่ปกป้อง ดินแดนประเทศว่าไม่ใช่พวกเรา ย่อมแสดงให้เห็นถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร คำนึงถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว มากกว่าความสำคัญทางความมั่นคงของประเทศชาติ การเจรจาระหว่างประเทศที่เกิดขัดแย้งกันในพื้นที่ชายแดนถึงขนาดที่ต้องนำกองกำลังทหารมา ประชิดชายแดนทั้ง 2 ฝ่ายแต่นายกรัฐนตรีไทยกลับเป็นผู้เสนอและยอมทุกอย่างที่กัมพูชาร้องขอนั้น การเจรจาดังกล่าวเสมือนจะยอมยกแผ่นดินไทยให้กับกัมพูชา อันเป็นการพูดที่ทำลายเกียรติ ศักดิ์ศรี ความเป็นประเทศไทย อันเป็นการกระทำที่ ขายชาติ ขายแผ่นดิน นำข้อมูลข่าวสารภายในประเทศ หรือ กล่าวโทษคนในประเทศให้กับประเทศฝ้ายตรงข้ามกับประเทศตัวเอง การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ ทรยศต่อประเทศชาติ ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยอมยกแผ่นดิน ให้ประเทศอื่นเพื่อให้ตำแหน่งของตนเองดำรงดำรงอยู่โดยไม่คำนึงถึงถึงประเทศชาติ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนชาวไทยจะต้องลุกขึ้นมาสามัคคีกันปกป้องประเทศชาติ และ เรียกร้องให้ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล และ เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวขอ โทษประเทศไทยและรับผิดชอบต่อการทรยศประเทศไทยด้วยการ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดย เร่งด่วน ” น.ส.แพทองธารฯ ต้องออกไป หยุดขายชาติ ขายแผ่นดิน”
ขอให้พี่น้องประชาชนออกมาแสดงพลังรักชาติ ปกป้องแผ่นดิน นับจากวันนี้เป็นต้นไปที่ทำเนียบ
รัฐบาล และขอให้มาแสดงพลังใหญ่ในวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล จนถึงอังคารที่ 24 มิ.ย.68 เพื่อให้ น.ส.แพทธงธาร ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีลาธยกทั้งคณะ
เวลา 1120 หลังเสร็จสิ้นการอ่านแถลงการณ์ กลุ่มฯ ได้ประกาศให้มวลชนเคลื่อนขบวนจะไปทำกิจกรรมต่อที่เวที
เวลา 1125 กลุ่มฯ ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลบนเวที
เวลา 1130 เป็นการแสดงดนตรีสด
ยอดมวลชนประมาณ 400 คน
